จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2551

จากแม่สู่ลูก




ครั้งหนึ่งแม่เคยเป็นลูก และ ได้เปลี่ยนสถานะจากลูกสู่แม่ ซึ่งเป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง จากเด็กหญิงตัวเล็กๆ เอาแต่ใจตัวเอง ก็ต้องเปลี่ยนเป็นตามใจลูกสุดที่รัก ที่แสนจะยากเย็นแสนเข็ญกว่าจะได้เจ้าตัวเล็กออกมา เคยเป็นผู้รับการอบรมสั่งสอน ก็ต้องเปลี่ยนเป็นคอยอบรมสั่งสอนลูกแทน นี่แหละเขาถึงเรียกวงเวียนชีวิต





วันอังคารที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2551

นมแม่”คุณค่าจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของลูกน้อย

เผยประโยชน์มหาศาลที่คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม

เนื่องในสัปดาห์รณรงค์การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ และเพื่อเป็นการระลึกถึงคุณของนมแม่ จึงอยากจะให้ทราบข้อมูลเกี่ยวกับ “นมแม่” และประโยชน์อันมหาศาลที่คุณแม่ทุกคนไม่ควรมองข้าม นมแม่คือคุณค่าจากธรรมชาติที่ดีที่สุดของลูกน้อย เพราะสะอาด บริสุทธิ์ ปลอดภัย และอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นดีเอชเอ, โอเมก้า 3-6-9, ทอรีน, โอลิโกแซคคาไรด์, นิวคลีโอไทด์ ฯลฯ ทำให้ลูกน้อยฉลาด แข็งแรง และมีพัฒนาการสมวัย

ทอรีนในนมแม่ในเรื่องบทบาทต่อการเจริญเติบโตของสมองยังไม่แน่ชัด แต่สมองของทารกมีปริมาณทอรีนมากกว่าผู้ใหญ่ ซึ่งเป็นช่วงที่สมองและประสาทจอตากำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว มีหลักฐานบ่งบอกว่าทอรีนป้องกันการชักในทารกแรกเกิดเมื่อเกิดมีไข้สูง ซึ่งจะไม่พบในนมวัว และทารกสร้างเองไม่ได้ จึงต้องได้จากนมแม่เท่านั้น กรดไขมันไม่อิ่มตัวในนมอย่างดีเอชเอ (DHA) และเอเอ (AA) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีมากในสมองและตา ในช่วงแรกเกิดถึง 6 เดือน การได้รับกรดไขมันดีเอชเอในช่วงนี้จะช่วยให้ประสาทตาพัฒนาได้ดี จากผลการศึกษาการเสริมดีเอชเอลงในนมผสมสำหรับเลี้ยงทารกเกิดก่อนกำหนดแสดงให้เห็นว่าทารกสามารถมองเห็นได้เร็ว จึงสามารถเรียนรู้ก่อนตั้งแต่แรกๆ แต่ระดับดีเอชเอในเลือดเด็กที่กินนมขวดจะลดลงต่ำกว่าเด็กที่กินนมแม่ และพบว่าเด็กที่กินนมแม่ที่ได้รับดีเอชเอจากอาหาร เช่น เนื้อปลา ในช่วงที่ให้นมลูกจะทำให้สายตาของลูกดีกว่าเด็กที่กินนมแม่ที่ได้รับดีเอชเอจากอาหารน้อย

นมเป็นอาหารหลักของชีวิตเด็กเล็ก โดยมีนมแม่เป็นเสมือนวัคซีนหยดแรกที่ช่วยสร้างภูมิต้านทานให้แก่เด็ก เพราะในนมแม่มีโอลิโกแซคคาไรด์ ซึ่งเป็นสารอาหารที่นอกจากจะกำจัดเชื้อโรคแล้ว ยังส่งเสริมการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์สุขภาพ รักษาสมดุลระบบนิเวศของจุลินทรีย์สุขภาพกลุ่มบิฟิโดแบคทีเรียและแลคโตซิไลเป็นส่วนใหญ่ ทำให้มีภูมิต้านทานโรคติดเชื้อในทางเดินอาหารมากกว่าเด็กที่กินนมแม่ จากความรู้นี้จึงได้นำมาใช้ให้เป็นประโยชน์กับเด็กวัยเจริญเติบโตที่เลิกกินนมแม่แล้ว ดังนั้น หลังจากเด็กหย่านมแม่เราจึงควรเลือกนมผงที่มีพรีไบโอติก โอลิโกฟรุกโตส เพื่อให้เป็นอาหารของจุลินทรีย์สุขภาพจะได้มีจำนวนมากพอที่จะทำงานในการสร้างภูมิต้านทานอย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันวิทยาศาสตร์การอาหารก้าวหน้ามากขึ้น เราสามารถคิดค้นนมผงที่มีส่วนผสมของพรีไบโอติก โอลิโกฟรุกโตส ซึ่งเป็นโอลิโกแซคคาไรด์ชนิดหนึ่ง และเป็นใยอาหารจากธรรมชาติ 100% โดยไม่ไปเปลี่ยนแปลงรสชาติและคุณค่าสารอาหารที่มีอยู่เดิมในนมผง เพื่อให้เด็กกินได้ง่าย อร่อย มีคุณค่า ปริมาณพรีไบโอติก โอลิโกฟรุกโตส ที่เหมาะสมคือ 2-3 กรัม ซึ่งเพียงพอในแต่ละวัน เด็กจะมีระบบย่อยอาหารที่ดีขึ้น ทำให้ขับถ่ายได้ง่าย สังเกตได้จากอุจจาระจะเนียนนุ่มคล้ายเด็กกินนมแม่ และลดโอกาสที่จะเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆได้อีกด้วย เรียกว่าหากเลือกนมดีก็จะช่วยสร้างเสริมภูมิต้านทานให้แก่เด็กได้เป็นอย่างดีนั่นเอง

นมผสมยี่ห้อต่างๆจากหลายบริษัทต่างพยายามคิดค้นวิจัยและพัฒนาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานนับสิบๆปี เพื่อจะอวดอ้างว่านมของตนมีคุณสมบัติใกล้เคียง “นมแม่” มากที่สุด แต่ก็ไม่มีข้อพิสูจน์ใดบอกว่านมยี่ห้อใดดีกว่ากัน เมื่อคนเป็นแม่ทุกคนมีอาหารที่ดีที่สุดอยู่กับตัวอยู่แล้ว ไม่ต้องเปลี่ยนสูตร 1 สูตร 2 สูตร 3 เหมือนนมผสม พร้อมใช้ทุกเวลา ทุกสถานการณ์ ฟรีอีกด้วย แล้วทำไมเราจึงต้องไปเสียเงินแพงๆเพื่อหาซื้ออาหารที่มีคุณสมบัติแค่ใกล้เคียงนมแม่ให้กับลูกล่ะค่ะ การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ให้ประโยชน์มากที่สุดในกรณีที่คุณแม่มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคขาดสารอาหาร ให้เลี้ยงลูกด้วยนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นเวลา 6 เดือน โดยไม่ให้อาหารชนิดอื่น แม้แต่น้ำ หลังจากนั้นให้นมแม่ควบคู่กับอาหารเสริมไปจนลูกอายุอย่างน้อย 2 ปี